วันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2555

ลอบทำร้าย


 สาเหตุของการลอบทำร้าย อาจเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง หรือหลาย ๆ สาเหตุดังต่อไปนี้
           ๑. ความขัดแย้งทางการเมือง
           ๒. ความขัดแย้งกันเป็นการส่วนตัว
           ๓. ความขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
           ๔. การกระทำของกลุ่มมือบอน หรือพวกจิตผิดปกติ หรือโรคจิต
           ๕. การข่มขวัญคู่แข่ง หรือศัตรู
           ความคิดที่ว่า สาเหตุจากการที่โรงเรียนถูกเผากว่า ๓๐ แห่ง จะมีผลกระทบต่อองค์ประกอบพื้นฐาน ในการพัฒนาประเทศ และความไม่มั่นคงของสังคม ได้แก่
           ๑. เมื่อคนในชาติเผาโรงเรียนได้ ย่อมเผาชาติได้
           ๒. เมื่อโรงเรียนถูกเผา แล้วจะเอาอะไรไปพัฒนาศักยภาพของพลเมืองและประเทศชาติจะเจริญได้อย่างไร
           ๓. เมื่อคนไม่ต้องการพัฒนาคน ไม่ต้องการพัฒนาญาติพี่น้องแล้ว ต่อไปคนในชาติก็ไร้คุณภาพ มนุษย์ก็จะกลายเป็นอมนุษย์ไป
           ๔. เมื่อคนในชาติไม่สามารถป้องกันแก้ไขปัญหานี้ได้ ก็คงไม่พ้นความสิ้นชาติหรือเสียบางส่วนของชาติไป
ผลของปัญหา
           เมื่อพิจารณาคลุมถึงการใช้อำนาจพลการ ในรูปแบบต่าง ๆ พอจะกล่าวได้ว่า ย่อมก่อให้เกิดผลเสียทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ดังนี้
           ๑. ผลเสียทางสังคม
           ๒. ในด้านเศรษฐกิจ
           ๓. ทางด้านการเมือง
การป้องกันแก้ไข
           การที่จะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการใช้อำนาจพลการนั้น มีหลายวิธีที่อาจช่วยได้เป็นต้นว่า
           ๑. การอบรมปลูกฝังประชาชนในชาติให้มีจริยธรรมอันดีงาม มีศีลธรรมประจำใจ
           ๒. ควรสร้างค่านิยมหรือพฤติกรรมหลักให้ยึดถือ
           ๓. การขจัดตัวกลางที่จะเสริมให้เกิดการใช้ความรุนแรง
           ๔. การปรับปรุงโครงสร้างของสังคม ปรับปรุงสถาบันสังคมทั้งหลายให้สามารถทำหน้าที่ได้อย่างดีที่สุด
           ๕. โดยการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

ปัญหาลอบทำร้าย
          พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนบุคคลผู้ไม่ประประทุษร้ายมิตรย่อมมีอานิสงค์ ๑๐ ประการคือ : -
          ๑. ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร , ออกจากเรือนของตนไปในที่ไหน ๆ ย่อมมีอาหารมากมาย คนเป็นอันมากย่อมอาศัยผู้ไม่ประทุษร้ายมิตรเป็นอยู่
          ๒. ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร , ไปในชนบท นิคม หรือราชธานี ย่อมได้รับการต้อนรับทุกแห่ง
          ๓. ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร , โจรก็ไม่ข่มเหง พระราชาก็ไม่ดูหมิ่น ย่อมข้ามพ้นศัตรูได้
          ๔. ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร , ไม่เคยโกรธเคืองใครไปในที่ใดย่อมได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ทั้งในหมู่ญาติและมิตร
          ๕. ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร , สักการะคนอื่นแล้ว ย่อมได้รับสักการะตอบ เคารพคนอื่นแล้ว ย่อมได้ความเคารพตอบ และได้รับการสรรเสริญเกียรติคุณ
          ๖. ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร , บูชาผู้อื่นย่อมได้รับการบูชาตอบ ไหว้ผู้อื่นย่อมได้รับการไหว้ตอบ ย่อมถึงซึ่งอิศริยยศเกียรติคุณ
          ๗. ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร , ย่อมรุ่งโรจน์เหมือนไฟ ย่อมไพโรจน์เหมือนเทวดาและมีสิริในทุกสถาน
          ๘. ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร , โภคทรัพย์ย่อมเกิดมากมาย พืชพันธ์ธัญญาหาร ย่อมงอกงาม ย่อมได้รับผลผลิตที่หว่านลงไปในนานั้น
          ๙. ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร , แม้พลาดตกจากภูเขาหรือพลาดตกลงมาจากต้นไม้ย่อมได้ที่พึ่ง คือไม่เป็นอันตรายแต่ประการใด
        ๑๐. ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร , ศัตรูทั้งหลายย่อมไม่ข่มขี่เบียดเบียนบีฑาเหมือนต้นไทรใหญ่







ขอบคุณข้อมูลจาก




มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
วัดบวรนิเวศวิหาร แขวงบวรนิเวศ ถนนพระสุเมรุ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
โทรศัพท์ 0-2282-8303, 0-2281-6427 โทรสาร 0-2281-0294

      ข้อมูลเพิ่ม>>>>>> http://www.dhamma.mbu.ac.th/th/index.php?option=com_content&task=view&id=42&Itemid=57

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น