วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2555

๏เคเบิ้ลคาร์๏


          ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าใด ดูเหมือนว่าการจราจรบนถนนจะเป็นเรื่องที่สร้างปัญหาให้กับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งก๊าซพิษจากการเผาไหมเชื้อเพลิง การผลิตจนถึงการทำลายรถยนต์ที่ไม่ใช้แล้วแม้จะมีเทคโนโลยีด้านรถยนต์ที่ใช้พลังงานสะอาดเป็นเชื้อเพลิงอยู่แล้ว แต่ การนำเทคโนโลยีเหล่านั้นออกมาสู่การใช้งานจริง ยังต้องอาศัยเวลาในการพัฒนาและแก้ไขเรื่องต่างๆ อีกพอสมควร แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ ค่านิยมของผู้บริโภคที่ยึดติดกับสิ่งเก่าๆ ดังนั้น การปรับปรุงระบบขนส่งมวลชนให้มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดูจะเป็นหนทางที่รวด เร็วและมั่นคงกว่าและในปัจจุบันเมืองแห่งหนึ่งในประเทศโคลัมเบียได้ประสบความสำเร็จ ในการปรับปรุงระบบขนส่งมวลชนของตนให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งยังมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย          โดยเมืองดังกล่าวคือ เมืองเมดเดลิน ซึ่งได้ปรับปรุงระบบขนส่งมวลชนในเมืองของตน ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน จนได้รับรางวัล “Sustainable Transport” จาก สถาบันนโยบายการพัฒนาการขนส่ง หรือ Institute for Transportation and Development Policy (ITDP) ในเมืองเมดเดลิน รัฐโคลัมเบีย นั้นจะมีระบบขนส่งเป็นรถกระเช้าไฟฟ้า ซึ่งเปิดให้บริการในปี 2006 ซึ่งช่วยเชื่อม ต่อระหว่างย่านธุรกิจใจกลางเมืองกับ พื้นที่อยู่อาศัย ระบบดังกล่าวนอกจากไม่ก่อมลพิษเพราะขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าแล้ว ยังเป็นระบบขนส่งที่มีราคาถูก ประชาชนทุก ระดับในเมืองจึงสามารถเข้าถึงได้ อีกทั้งยังเชื่อมโยงกับระบบรถไฟใต้ดินและรถประจำทาง รวมถึงระบบขนส่งอื่นๆ ที่ จะสร้างตามมาในอนาคตอีกด้วย          “เมืองเมดเดลินถือว่าเป็นผู้บุก เบิกในการนำรถกระเช้ามาเป็นระบบ ขนส่งมวลชนทางเลือกสำหรับพื้นที่ ที่ประชากรมีรายได้ต่ำและมีการวาง ผังเมืองที่ไม่ดีทั้งยังเป็นบริเวณที่เต็ม ไปด้วยเนินเขามากมาย แต่กระนั้นก็ยังสามารถขนส่งผู้คนได้มากกว่า 3,000 คนต่อวัน” นายโฮลเกอร์ ดาลมันน์ ผู้อำนวยการ EMBARQ กล่าวในพิธีมอบ รางวัล          นอกจากนี้ โมเดลระบบขนส่งมวลชนของเมืองเมดเดลินยังถูกนำไปปรับใช้ ในหลายเมืองของทวีปอเมริกาใช้ ซึ่งมีปัจจัยด้านประชากรและภูมิศาสตร์คล้ายคลึงกัน เช่น เมืองริโอเดอร์จาเนโร ประเทศบราซิล และกรุงคาราคัส ประเทศ เวเนซุเอลา          นายโฮลเกอร์ กล่าวอีกว่า ระบบขนส่ง นี้นับว่าเป็นความก้าว หน้าอย่าง แท้จริง เนื่องจากมันสามารถเปลี่ยน ความรุนแรงและความสิ้นหวังของเมืองให้กลายเป็น ความหวังและโอกาส ด้วยการมอบหนทางที่ผู้คนในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้ามาทำงานในเขตเมืองได้อย่าง รวดเร็ว--จบ--
          --สยามธุรกิจฉบับวันที่ 29 ก.พ. - 2 มี.ค. 2555--

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น